มหากาพย์สอบใบขับขี่ญี่ปุ่น!!!

ที่ต้องใช้คำว่ามหากาพย์เพราะเรื่องมันเยอะม๊ากกก

เราจะสามารถขับรถในญี่ปุ่นได้ต้องมี 1 สิ่งใน 3 อย่างนี้

1. ใบขับขี่สากล(สำหรับนักท่องเที่ยวในระยะสั้น)

2. ใบขับขี่จากประเทศบ้านเกิดที่ยื่นขอเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ญี่ปุ่น(สำหรับคนมีใบขับขี่ถาวรของประเทศตัวเอง)

3. มาเริ่มทำใบขับขี่ที่ญี่ปุ่นใหม่

เรามีแต่ใบขับขี่ชั่วคราวของไทยที่หมดอายุไปในช่วงโควิด เวลาไปไหนมาไหนก็จะขึ้นรถสาธารณะตลอด จะได้เที่ยวในที่แปลกๆ ก็ต่อเมื่อเกาะแข้งเกาะขาไปกับคนที่มีรถ

เมื่อปี 2021 ก็คิดมาทั้งปีว่าลองสอบใบขับขี่ญี่ปุ่นดูดีมั้ย ได้ข่าวว่าทั้งแพง(ประมาณ 1 แสนบาท)ทั้งยาก ได้มาแล้วก็ต้องซื้อรถ พ่วงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาอีก แต่อีกใจนึงเราก็อยากได้มาเพื่ออัพเกรดตัวเอง คิดว่าถ้าได้ใบขับขี่มาแล้วจะขับรถพาทุกคนไปเที่ยวที่ลึกลับๆ ได้งี้555 แต่หลังจากนั้นก็ลืมๆ ไปเพราะกังวลหลายๆ อย่าง

พอถึงช่วงปลายปี เราก็ได้ไปดูดวงกับหมอคนไทยคนหนึ่งหลังจากที่ห่างหายจากวงการนี้ไปนานมากกกกก555 หมอดูทักขึ้นมาเองว่าในปี 2022 เราจะได้ใบประกาศอะไรสักอย่างมาใบหนึ่ง แล้วใบประกาศนั้นมันจะทำให้งานเราไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่มากๆ เลยทำให้คำว่า "ใบขับขี่" กลับเข้ามาในหัวของเราอีกครั้ง555

เราเลยกัดฟันออกจากเซฟโซนของตัวเองโทรหาโรงเรียนสอนขับรถที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด(เมืองข้างๆ) แล้วแจ้งความประสงค์ว่าอยากเรียนขับรถ และเราเป็นคนต่างชาติ ทางโรงเรียนสอบถามว่าเราฟังญี่ปุ่นได้มั้ย เพราะที่โรงเรียนไม่มีครูสอนภาษาอื่นเป็นนอกจากญี่ปุ่น มีค่าเรียนเท่านี้ มีรถรับส่งฟรีถึงบ้าน เราเลยตกลงที่จะเรียน

ค่าเรียนทั้งหมด 283,440 เยน(คูณเรทตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 73,690 บาท) แล้วก็เริ่มเรียนในวันถัดไปหลังจากที่โทรเลย!!! เร็วมากแม๊!! เราถึงกับต้องรีบกดเงินมาจ่าย555

พอยื่นเอกสารประจำตัว อย่างทะเบียนบ้านและใบพำนักในญี่ปุ่นเสร็จ เค้าก็ถ่ายรูปให้เราเลย ซึ่งก็ดีมาก เพราะเราไม่ต้องไปเสียเงินถ่ายรูปเอาเอง ดีนะที่ชั้นรอบคอบแต่งหน้าไปก่อน5555 จากนั้นก็วัดสายตาแล้วทำแบบทดสอบ พร้อมจ่ายเงิน//กำเงินแน่น ไม่อยากจ่าย555

.

แบบทดสอบสนุกมากกก เค้าจะมีข้อสอบมาให้ แล้วจับเวลาให้ทำ เช่น มีช่องมาให้เยอะๆ แล้วให้เราวาดรูปสามเหลี่ยมลงในช่องให้เร็วที่สุดภายในเวลา 1 นาที หรือว่าให้ดูภาพตัวอย่างเช่นเป็นสัญลักษณ์แบบช่อง 7 สี แล้วด้านล่างจะมีสัญลักษณ์คล้ายกันเป็น 100 อัน ให้เราวงกลมว่าอันไหนบ้างที่เหมือนตัวอย่าง แบบต้องมีขนาดเท่าตัวอย่างเป๊ะๆ เบี้ยวนิดนึงคือไม่ใช่ แล้วก็มีคิดเลขเร็ว หรืออะไรทำนองนี้อีก จำได้ว่าทำไปเกือบ 10 ชุด

เราสนุกมากกกก คือข้อสอบมันเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แต่ที่ไม่ปกติคือระหว่างที่ทำ ครูคุมสอบจะพูดใส่เราว่า เร็ว! เร็วอีก! เร็วเข้า! เร็วยิ่งกว่านี้! เราถึงกับกำหมัดทดครูไว้ในใจ55555 จริงๆ นี่คือการประเมินเราทั้งหมดค่ะ เค้าจะให้คะแนนว่าพอเราถูกเร่งเร้าแล้วเราจะหัวร้อนมั้ย เราไหวพริบดีรึเปล่า ในสภาวะกดดันเรายังควบคุมสติแก้ปัญหาตรงหน้าต่อได้มั้ย

เราได้คะแนนสูงมากจนตัวเองตกใจ เพราะเนื้อหาข้อสอบมันสนุกแล้วเราก็ไม่แสดงความหัวร้อนตอนครูเร่งด้วย นี่ถึงกับอยากขอครูเอากลับไปทำที่บ้านต่อ555 ครูก็ชมเราไม่ขาดปากว่าฉลาดมาก เธอต้องสอบผ่านแน่นอน ชั้นขำแห้ง และอยากบอกครูว่าอย่าเพิ่งรีบตัดสิน มารอดูสกิลภาษากากๆ ของเราก๊อนน55555

บทเรียนของโรงเรียนสอนขับรถ

-. ครึ่งแรก : เรียนทฤษฎี 10 ชั่วโมง, เรียนปฏิบัติด้วยการขับรถในโรงเรียน 20 ชั่วโมง

-. สอบจบครึ่งแรกเพื่อขอใบขับขี่ชั่วคราว : สอบข้อเขียน 50 ข้อ(ผิดได้ไม่เกิน 5 ข้อ) + สอบปฏิบัติขับรถในโรงเรียนในวันเดียวกัน ถ้าผ่านทั้ง 2 ถึงจะได้ไปต่อครึ่งหลัง

-. ครึ่งหลัง : เรียนทฤษฎี 18 ชั่วโมง(รวมอบรมการขับรถบนหิมะ), เรียนปฏิบัติด้วยการขับรถบนถนนจริง 11 ชั่วโมง(รวมฝึกขับบนทางด่วน)

-. สอบจบการศึกษาจากโรงเรียน : สอบขับรถบนถนนจริง มีครูนั่งไปด้วย จากคะแนนเต็ม 100 ห้ามโดนหักแต้มเกิน 30 คะแนน(แอดมินสอบตก 1 ครั้ง เลยต้องได้ลางานมาสอบใหม่//ความเจ็บนี้ไม่มีเสี๊ยงงง)

ถ้าสอบไม่ผ่านหรือขับรถยังไม่ดีก็ต้องไปเรียนซ่อมพร้อมโดนคิดเงินเพิ่ม เราโดนคิดเงินค่าเรียนภาคปฏิบัติเพิ่ม 4 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 5,000 เยน(1,300 บาท)//กำหมัด

หลังจากสอบจบการศึกษาผ่านแล้วเรายังต้องไปสอบเพื่อขอใบขับขี่จากศูนย์ใบขับขี่ประจำภูมิภาคอีก สอบข้อเขียน 100 ข้อ ผิดได้ไม่เกิน 10 ข้อ

สุดท้ายแล้วเราก็สอบผ่านนนนนนนนนนนนนนน โดยใช้เวลาทั้งหมดทั้งสิ้น 3 เดือนเต็มๆ หมดเงินรวมๆ ไป 300,000 กว่าเยน

เริ่มเรียน 2 เมษา ได้ใบขับขี่วันที่ 1 กรกฎา น้ามตาจะไหลลลลล เป็น 3 เดือนที่สู้ชีวิตมากก เพราะต้องไปเรียนหลังเลิกงาน

เราเลิกงาน 5 โมงกว่าๆ เรียนทฤษฎีตอน 6 โมง แล้วก็เรียนขับรถต่อตอน 1 ทุ่ม กลับถึงบ้าน 2 ทุ่มกว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ตปิดหมดแล้ว เลยต้องหาซื้อข้าวกินตามร้านสะดวกซื้อ แถมยังต้องอ่านหนังสือสอบต่ออีก แรกๆ สนุกมาก ฟิตโคตรๆ รู้สึกตื่นเต้นกับความรู้ใหม่ๆ มีแต่กฎจารจรที่เราไม่รู้ทั้งนั้น นอนดึกแค่ไหนก็ไม่เคยง่วงตอนเรียนเลย

แต่พอมาถึงครึ่งหลังเท่านั้นแหละ แม่มึงเอ๊ยยยย ทุกอย่างประเดประดังเข้ามา ทั้งงานยุ่ง ทั้งข้อสอบ ทั้งแบบฝึกหัดที่ครูบังคับให้ทำอีกวันละ 2 ชั่วโมง บอกเลยว่าเกือบขิต ไปเรียนเหมือนไปตาย เดินยังกะซอมบี้ วันไหนได้หยุดเรียนนี่เหมือนสวรรค์

แต่เราก็ต้องขอบคุณโรงเรียนนี้มากกกก เพราะปกติคนที่สอบจบจากโรงเรียนเสร็จก็ต้องกลับไปอ่านหนังสือเตรียมสอบกับทางศูนย์ใบขับขี่กันเอง ส่วนเราเรียนจบแล้วครูไม่ให้จบ ครูฝากให้ผอ.โรงเรียนมาติวสอบให้พิเศษไปอีกเกือบเดือน ผอ.ก็โหดมากแม๊

มีช่วงนึงแอดมินโป๊ะแตกว่าไม่ยอมอ่านหนังสือ เลยทำข้อสอบผิดไป 30 กว่าข้อ ผอ.ถึงกับเท้าเอว แล้วถามว่าอยากได้มั้ย ใบขับขี่เนี่ย โอ๊ยยย5555 ผอ.ให้เราทำข้อสอบหนักมาก แบบผิดข้อไหนเอาข้อนั้นมานั่งคุยกันเลยว่าทำไมถึงผิด ชี้แจงเป็นข้อๆ จากข้อสอบ 800 ข้อ

วันที่เราสอบผ่านเราโทรไปอวดผอ.กับครูด้วย จับได้ถึงน้ำเสียงความยิ้มกรุ้มกริ่มผ่านโทรศัพท์ 55555555555 เป็นไง ไม่นึกว่าชั้นจะผ่านล่ะซี้ อิอิ

ใครอ่านมาถึงตรงนี้เราขอกราบ 5555 แค่อยากจะมาบอกว่าเรามีใบขับขี่แล้วค่าาาาาา ขับได้ถึงปี 2025 ไปเล้ยยย สอบเสร็จก็กลับมาปั่นจักรยานด๊อกแด๊กเหมือนเดิมเพราะไม่มีรถ พีคปะ 555555555555555